วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

e-Mail




ภาพ การใช้ e-mail ในการทำงานและสื่อสาร

e-mail เป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยผ่านระบบโทรคมนาคม ข่าวสารหรือข้อความของ e-mail จะเป็นไฟล์ประเภทข้อความ อย่างไรก็ตามสามารถส่งไฟล์ประเภทอื่น เช่น ไฟล์ประเภทภาพหรือเสียง เป็นไฟล์ที่แนบไปในรหัสแบบ binary โดย  
e- mail เป็นสิ่งแรกที่ใช้อย่างกว้างขวางในอินเตอร์เน็ต และเป็นสัดส่วนใหญ่ในการใช้ traffic บนอินเตอร์เน็ต e-mail สามารถแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ใช้ของ online service provider กับระบบเครือข่ายอื่น นอกจากนี้ ภายในอินเตอร์เน็ต e- mail เป็นโปรโตคอลแบบหนึ่งที่รวมอยู่ใน Transport Control Protocol/Internet Protocol (TCP/IP) โปรโตคอลที่นิยมสำหรับการส่ง e- mail คือ Simple Mail Transfer Protocol (SMTP) และโปรโตคอล ที่นิยมในการรับ e- mail คือ POP3 ทั้ง Netscape และ Microsoft ได้รวม e- mail และส่วนประกอบการทำงานใน web browser

                             ตัวอย่างการเรียนการสอน

ในสังคมปัจจุบันโลกออนไลน์กำลังเป็นที่นิยม และในการเรียนสมัยนี้จำเป็นที่ต้องใช้
โลกออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของการเรียน สำหรับ e-mail ครูมักจะใช้ในการให้นักเรียน
ส่งงานการบ้าน และยังสามารถใช้ในด้านอื่นๆได้อีกมากมายแล้วแต่ครูจะประยุกต์




ที่มา: http://guru.sanook.com
          http://mtbkzone.exteen.com
       
วันที่สืบค้น: 16/02/2556

Tablet



ภาพ เด็กๆกับ Teblet



ภาพ เด็กนักเรียนกับการเรียนโดยใช้ Teblet

"Tablet"(แท็บเล็ต) ในความหมายแท้จริงแล้วก็คือแผ่นจารึกที่เอาไว้บันทึกข้อความต่างๆโดยการเขียน (อาจจะเป็นกระดาษ, ดิน, ขี้ผื้ง, ไม้, หินชนวน) และมีการใช้กันมานานแล้วในอดีต แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาคอมพิวเตอร์ที่ใช้แนวคิดนี้ขึ้นมาแทนที่ซึ่งมีหลายบริษัทได้ให้คำนิยามที่แตกต่างกันไป หลักๆแล้วก็มี 2 ความหมายด้วยกันคือ "แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC (Tablet Personal Computer)" และ "แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ - Tablet Computer" หรือเรียกสั้นๆว่า "แท็บเล็ต - Tablet" 
"แท็บเล็ต พีซี - Tablet PC (Tablet personal computer)" คือ "เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่สามารถพกพาได้และใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรก ออกแบบให้สามารถทำงานได้ด้วยตัวมันเอง"
"แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ - Tablet Computer" หรือเรียกสั้นๆว่า "แท็บเล็ต - Tablet" คือ "เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในขณะเคลื่อนที่ได้ขนาดกลางและใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริงหรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด และมีความหมายครอบคลุมถึงโน๊คบุ๊คแบบ convertible ที่มีหน้าจอแบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดติดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบหมุนหรือแบบสไลด์ก็ตาม"

ปัจจุบันนี้เริ่ม มีการใช้ Tablet PC ในแวดวงการศึกษากันอย่างคึกคักเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่นในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงขั้นลงทุนซื้อ Table PC แจกให้กับนักเรียนเพื่อใช้แทนหนังสือในรูปแบบเดิมๆ ทั้งนี้เพราะTablet PC จะช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดพิมพ์หนังสือและตำราเรียนได้อย่างมากมาย อีกทั้งยังทำให้การปรับปรุงเนื้อหาตำราเรียนสามารถทำได้อย่างทันท่วงที โดยไม่ต้องรอหนังสือเป็นเล่มๆ หมดแล้วค่อยพิมพ์ใหม่แบบเดิมๆ อีกต่อไป เพราะหนังสือต่างๆ ที่อยู่บน Tablet PC นั้นล้วนแล้วแต่เป็นหนังสืออิเลคทรอนิคส์ที่ถูกเก็บไว้ในรูปดิจิตอล จึงสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา


                           ตัวอย่างการเรียนการสอน
ในปัจจุบันมีการแจก Tablet ให้แก่นักเรียนเพื่อการศึกษา และ Tablet  หนึ่งเครื่องนั้นสามารถบรรจุหนังสือได้เป็นพันๆ เล่ม โดยผู้อ่านสามารถเลือกเล่มไหนขึ้นมาอ่านก่อนก็ได้ ความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของTablet PC คือการเชื่อมโยงครูอาจารย์ และนักเรียนนักศึกษา เข้าด้วยกันผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้ข้อจำกัดเรื่องสถานที่ในการเรียนการสอนหมดไป ครูอาจารย์ และนักเรียนนักศึกษา สามารถอยู่กันคนละที่แต่เข้ามาเรียนพร้อมกันแบบเห็นหน้าเห็นตาผ่านทางกล้องที่ถูกติดตั้งมาบนTablet PC ได้ จึงทำให้การเรียนการสอนทางไกลเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย และเข้าไปถึงกลุ่มคนทุกชั้นไม่ว่าจะอยู่ในชนบทห่างไกลแค่ไหนก็ตาม




ที่มา : ·         http://www.tabletd.com/articles/289
http://graphics.sci.ubu.ac.th/wiki/index.php/Personal_Computer

วันที่สืบค้น 16/02/2556



Social Media 

ภาพ การใช้ Social media ในวิชาต่างๆ


“Social” หมายถึง สังคม ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหม่มากในปัจจุบัน
“Media” หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา เรื่องราว บทความ วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น
ดังนั้นคำว่า Social Media จึงหมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้นั่นเอง พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์กัน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2.0 ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ที่เรียกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ


                             ตัวอย่างการเรียนการสอน
ในทุกๆวิชาสามารถนำ Social media ไปใช้ได้ แล้วแต่ครูจะประยุกต์ใช้ในด้นใด และทางไหน ซึ่งจะมีทั้งข้อดีและโทษแกนักเรียน โดยครูต้องเป็นผู้กำหนดในการใช้ และควบคุมพฤติกรรมของนักเรียน เพราะ Social media เป็นโลกออนไลน์ที่กว้าง ถ้าใช้ไปในทางที่ไม่ถูกวิธีก็อันตรายแก่เด็กๆ




วันที่สืบค้น : 16/02/2556




Video Conference 


ภาพ การเรียนการสอนโดยใช้ Video Conference


Video Conference คือ Codec เป็นคำย่อมาจาก Code และ Decode คือ การเข้ารหัสและการถอดรหัส
จากข้อมูลภาพที่มีจำนวนเส้น 625 เส้น 25 เฟรมต่อวินาที (กรณีสัญญาณ PAL ) เมื่อแปลงเป็นสัญญาณดิจิตอลแล้วจะต้องเปลี่ยนกลับเป็น Pixel หรือจุดสี ตามมาตรฐาน CCITT H.261 ซึ่งเป็นมาตรฐานสำคัญที่กำหนดในเรื่องการเข้ารหัส กำหนดจำนวนเส้นใช้เพียง 288 เส้น แต่ละ เส้นมีความละเอียด 352 pixel นั่นหมายถึงจะมีความละเอียดเท่ากับ 352×288 pixel เรียกฟอร์แมต การแสดงผลนี้ว่า Common Intermediate format และยังยอมให้ใช้ความละเอียดแบบหนึ่งในสี่ คือลดจำนวนเส้นเหลือ 144 เส้น และ pixel หรือ 176 pixel ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของจอภาพ ถ้าใช้จอภาพขนาดเล็ก จำนวน pixel ก็ลดลงไปได้ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่มีการรับส่งข้อมูลเป็นแพ็กเก็ต การส่งวิดีโอผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ย่อมเป็นไปได้ แต่เนื่องจากการส่งแพ็กเก็ตไอพีเป็นแบบดาต้าแกรม ดังนั้นจึงไม่รับรองช่วงระยะเวลาการเดินทางของข้อมูล เทคนิคการใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จึงต้องมีการสร้างบัฟเฟอร์และแก้ปัญหาที่แต่ละแพ็กเก็ตมายังปลายทางไม่พร้อมกัน

                ตัวอย่างการเรียนการสอน

ใช้สำหรับการเรียนการสอนทางไกล ที่ถ่ายทอดสดส่งไปยังห้องเรียนตามโรงเรียนชนบท
ปัจจุบันมีการใช้กันมาก เพื่อผลประโยชน์ของนักเรียนทุกคน ที่ครูต้องการจะให้ความรู้
เหมือนกันเรียนกับครูโดยตรง
 


วันที่สืบค้น : 16/02/2556
  
Web Quest 

ภาพ web quest

"Web Quest"  เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นการแสวงหาความรู้ โดยใช้ ICT เป็นฐานการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้เรียนกับแหล่งเรียนรู้ต่างๆ บนเครือข่ายอินเทรอืเน็ต ทั้งนี้ผู้เรียนจะต้องวิเคราะห์เนื้อหาสาระที่ได้จากการเรียนด้วยตนเอง การใช้ web quest ยังเป็นการช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะการแก้ปัญหา เป็นวิธีการเรียนที่เน้นความสำคัญที่ผู้เรียน
องค์ประกอบ Web Quest :
        การจะสร้างแหล่งการเรียนรู้ด้วย Web Quest ได้นั้นผู้สอนควรทราบถึงองค์ประกอบหลักในการจัดสภาพแวดล้อมของผู้เรียน โดยต้องคำนึงถึง การออกแบบ การวางแผนการสอน และการพัฒนาบทเรียน(Web Quest) ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบ ดังนี้
1. ชื่อเรื่อง
2. เลือกการออกแบบ
3. เครื่องมือในการพัฒนา
4. การสร้างเครื่องมือการประเมิน
5. การพัฒนากระบวนการ
6. การทดสอบ / เผยแพร่
7. การประเมินผล


                   ตัวอย่างการเรียนการสอน

บทเรียนออนไลน์แบบ web quest จะช่วยให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น เนื่องจาก บทเรียน
ออนไลน์แบบ web ques สนับสนุนให้ผู้เรียนได้เข้าถึงเนื้อหา ข้อมูลความรู้อย่างกว้างขวาง ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือก ซึมซับ เนื้อหาข้อมูลนั้นๆ ให้เหมาะกับตน ทั้งยังฝึกให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดในขั้นสูง ในระดับการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตลอดจนประเมินค่า อีกทั้งปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียนจะเป็นไปในเชิงบวก เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงออกอย่างเต็มที่ทั้งด้านความคิดและความสามารถ ผนวกกับการออกแบบรูปแบบบทเรียนออนไลน์ที่ดีจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทบาทของตนเองได้ชัดเจน นำไปสู่การมีปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้กระบวนการเรียนการสอน เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุขโดยแท้จริง เหมาะกับการที่ครูจะนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ของนักเรียนเพื่อเปิดโลกความรู้ให้กว้างมากขึ้น




ที่มา : elearning/mod/resource/view.php?id=65 

วันที่สืบค้น : 16/02/2556


e-Book


ภาพที่1 สารบัญ e-Book




ภาพที่2 เนื้อหาใน e-Book


"e-Book" ย่อมาจาก electronic book หมายถึง หนังสือที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติมักจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถอ่านเอกสารผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์คุณลักษณะของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถเชื่อมโยงจุดไปยังส่วนต่างๆ ของหนังสือ เว็บไซต์ต่างๆ ตลอดจนมีปฏิสัมพันธ์และโต้ตอบกับผู้เรียนได้ นอกจากนั้นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแทรกภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว แบบทดสอบ และสามารถสั่งพิมพ์เอกสารที่ต้องการออกทางเครื่องพิมพ์ได้ อีกประการหนึ่งที่สำคัญก็คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยได้ตลอดเวลา ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะไม่มีในหนังสือธรรมดาทั่วไป


                 ตัวอย่างการเรียนการสอน

เป็นหนังสือที่สามารถอ่านได้ทุกที่ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตสะดวกสบาย ไม่ต้องพกพา นอกจากนั้นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแทรกภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว แบบทดสอบ และสามารถสั่งพิมพ์
เอกสารที่ต้องการออกทางเครื่องพิมพ์ได้อีกประการหนึ่งที่สำคัญก็คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถ ปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยได้ตลอดเวลา ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะไม่มีในหนังสือธรรมดาทั่วไป เป็นอีกทาง เลือกที่ครูสามารถนำไปใช้กับนักเรียนได้



ที่มา : www.oknation.net


วันที่สืบค้น : 16/02/2556
blog

ภาพ blogger 

"blog" บล็อก เป็นคำรวมมาจากคำว่าเว็บล็อก(weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลงหรือวีดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า"บล็อกเกอร์" เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้าน


         ตัวอย่างการเรียนการสอน

รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้สอน และผู้เรียนไม่จำเป็นต้องพบกันตามเวลาในตาราง ที่กำหนดไว้ (Synchronous Learning) แต่ผู้สอนและผู้เรียนสามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา โดยใช้เครื่องมือสื่อ สารต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา และสถานที่ ผู้เรียนสามารถเรียนที่ไหน เวลาใดก็ได้ (Anywhere Anytime) เป็นการเรียนที่อาศัยวิธีการ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้เรียน สามารถเรียนรู้ในลักษณะที่ปฏิสัมพันธ์ และมีส่วนร่วมช่วยเหลือกันระหว่าง ผู้เรียน โดยใช้แหล่ง ข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ทั้งใกล้และไกล ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้า หรือเข้าถึงข้อมูลความรู้เหล่านั้น จากที่ไหน และเวลาใดก็ได้ ตามความต้องการและความสะดวกของผู้เรียนเอง ซึ่ง Asynchronous Learning เป็นการใช้การสื่อสารระยะไกล (Telecommunication) เพื่อช่วยให้การเรียนรู้มีลักษณะใกล้เคียงกับการเรียนในระบบห้องเรียนหรือการเรียนการสอนที่ผู้สอนกับผู้เรียนได้พบหน้ากัน (Face - to - Face Instruction)การใช้บล็อก (ฺBlog) ในการจัดการเรียนรู้ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ผู้เขียนได้ทดลอง ปรับปรุง แก้ไข ให้สามารถใช้งานได้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละโรงเรียนได้เป็นอย่างดี เป็นการเรียนรู้ร่วมกันในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เป็นการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างโรงเรียน นับเป็นการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ที่ต้องช่วยเหลือพึ่งพากัน



ที่มา: https://sites.google.com

วันที่สืบค้น: 16/02/2556





e-Learning

ภาพ e-Learning (บทเรียนออนไลน์)

e-Learning  จะหมายถึงบทเรียนออนไลน์ การเรียนในลักษณะใดก็ได้ ซึ่งใช้การถ่ายทอดเนื้อหาผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซทราเน็ต หรือ ทางสัญญาณโทรทัศน์ หรือ สัญญาณดาวเทียม (Satellite) ก็ได้ ซึ่งเนื้อหาสารสนเทศอาจอยู่ในรูปแบบการเรียนที่เราคุ้นเคยกันมาพอสมควร เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer-Assisted Instruction) การสอนบนเว็บ (Web-Based Instruction) การเรียนออนไลน์ (On-line Learning) การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ อาจอยู่ในลักษณะที่ยังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก เช่น การเรียนจากวิดีทัศน์ ตามอัธยาศัย (Video On-Demand) เป็นต้นอย่างไรก็ดี ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่เมื่อ
พูดถึงe-Learningจะหมายเฉพาะถึงการเรียนเนื้อหาหรือสารสนเทศซึ่งออกแบบมาสำหรับการสอนหรือการอบรม ซึ่งใช้เทคโนโลยีของเว็บ (Web Technology) ในการถ่ายทอดเนื้อหา และเทคโนโลยีระบบการจัดการคอร์ส (Course Management System) ในการบริหารจัดการงานสอนด้านต่างๆโดยผู้เรียนที่เรียนจาก e-Learning นี้สามารถศึกษาเนื้อหาในลักษณะออนไลน์ หรือ จากแผ่นซีดี-รอม ก็ได้ นอกจากนี้ เนื้อหาสารสนเทศของe-Learningสามารถนำเสนอโดยอาศัยเทคโนโลยีมัลติมีเดีย (Multimedia Technology) และเทคโนโลยีเชิงโต้ตอบ (Interactive Technology)


                 ตัวอย่างการเรียนการสอน

         
การเรียนในลักษณะ e-Learning ก็สามารถนำมาปรับใช้กับการเรียนในลักษณะปกติได้ หากนำมาใช้ อย่างถูกวิธี ผู้สอนก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการสอนในลักษณะบรรยาย(lecture)เป็นส่วนใหญ่อีกต่อไปและสามารถใช้เวลาในห้องเรียนให้มีประโยชน์สูงสุดเพราะ e-Learning สามารถนำมาใช้แทนที่หรือเสริมในส่วนของการบรรยายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อหาการเรียนซึ่งเน้นการท่องจำ (Verbal Information) และ ทักษะ เช่นในที่นี้ ได้แก่ พัฒนาการของเทคโนโลยีทางการศึกษา และช่วยทบทวนในเนื้อหาที่ไม่สามารถลงรายละเอียดได้ ดังนั้น e-Learning ที่ออกแบบมาดี สามารถนำเสนอเนื้อหาบางหัวข้อแทนผู้สอนได้โดยที่ผู้สอนไม่จำเป็นต้องสอนในชั้นเรียน และผู้สอนสามารถใช้เวลาในชั้นเรียนอย่างคุ้มค่ามากขึ้นเช่น การออกแบบกิจกรรมให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์แทน อย่างไรก็ดี ผู้สอนบางคนอาจจะเห็นว่า การปรากฏตัวของครูในห้องเรียนเพื่อบรรยายเป็นสิ่งจำเป็นมากเพราะเมื่อ ผู้เรียนเกิดปัญหาก็สามารถที่จะตอบปัญหาหรือให้ผลป้อนกลับได้ทันที







ที่มาhttp://www.tlcthai.com  
          www.myfirstbrain.com 
วันที่สืบค้น : 16/02/2556




วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เจาะลึกวิทยาศาสตร์ : จุลชีพใต้ท้องทะเล






วีดีโอเรื่อง จุลชีพใต้ท้องทะเล
  
                         เนื้้้อเรื่องเกี่ยวกับ

ในวีดิทัศน์ตอนนี้ที่จัดทำขึ้นสำหรับบทเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ได้แสดงเรื่องของภารกิจของคณะทำงานจากเรือสำรวจมหาสมุทรอาร์กติก ที่กำลังตักหาตัวอย่างสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจากพื้นมหาสมุทร คณะสำรวจดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจชีวิตแห่งท้องทะเล ซึ่งถือว่าเป็นความพยายามเบื้องต้นในประวัติศาสตร์ของ วิทยาศาสตร์ท้องทะเล นี่คือภารกิจที่มีระยะเวลายาวนานถึง 10 ปี มีเป้าหมายเพื่อผลิตการศึกษาในวงกว้าง เกี่ยวกับเรื่องความแตกต่างของชีวิตใต้ท้องทะเล ตัวอย่างจากพื้นดินใต้ท้องสมุทรจะถูกนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด โดยคณะผู้เชี่ยวชาญสากลของสถาบันเซงเคนเบิร์กในเยอรมนี สมาชิกของคณะสำรวจอธิบายให้เราฟังถึงกระบวนการของการพิสูจน์รูปพรรณ และจัดเตรียมเอกสารอ้างอิงถึงชนิดของสายพันธุ์ใหม่ ที่มีนับร้อย ซึ่งถูกค้นพบจากการสำรวจ


                 ประโยชน์
ทำให้เราได้ทราบและเห็นในสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดและทราบและรู้แค่ทฤษฏีไม่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลลึก ซึ่งไม่มีแสงส่องลงไปถึง ทราบถึงการดำรงชีวิตวิถีชีวิตของสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลลึก อย่างการดำรงชีวิตเพื่อการอยู่รอดที่น่าทึ่งมากคือ ไส้เดือนเพศผู้ทานอาหารไม่ได้เพราะไม่มีกระเพาะและดำรงชีพเพื่อการสืบพันธ์แล้วก็เสียชีวิต เพศเมียมีมากกว่ามีปากทานอาหารได้ เพราะต้องแพร่พันธ์เป็นสิ่งเหลือเชือจริงๆไม่น่าจะมีในโลก การสำรวจของนักวิทยาศสาตร์ แต่ละครั้งเอาแค่ ดินโคลนมา ในห้องเลปได้ศึกษาเป็นปีทีเดียว เห็นจากแววตาของนักวิทยาศาสตร์เห็นความตื่นเต้นที่พบชีวิตพันธ์ใหม่ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน นี่คือนักวิทยาศาสตร์ตัวจริงที่เมื่อค้นพบสิ่งใหม่ๆก็จะตื่นเต้นดีใจ ทำให้ครูมีความรู้มากขึ้นน่าสนใจมากๆ คงต้องใช้โทรทัศน์ครูเป็นสื่อการเรียนในเรื่องนี้แล้ว และจะนำไปถ่ายทอดแก่นักเรียนและผู้ที่สนใจ จะได้เชิญชวนผู้ที่สนใจในเรื่องที่ไม่น่าเชื่อได้รู้ได้เห็น ความรู้และสิ่งมีชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นและอาศัยอยู่ในโลกของเรา



                 การประยุกต์ใช้   
ครูสามารถเปิดวีดีโอนี้ให้นักเรียนดู และเป็นแนวทางในการศึกษาเรียนรู้






แหล่งข้อมูล:http://www.thaiteachers.tv/
วันที่สืบค้น:06/02/2556

ครูผู้ช่วย ประถมศึกษา : จัดการกับความโกรธ




วีดีโอเรื่อง   จัดการกับความโกรธ

            เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ

 
ครูผู้ช่วยที่ต้องการจะเรียนรู้เทคนิค เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถรับมือกับความโกรธของนักเรียน พวกเขาทำงานตัวต่อตัวกับซารา แฮริส ที่ปรึกษาด้านการเรียน พวกเขาทดสอบกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่สามารถนำมาดัดแปลงให้ครูผู้ช่วยสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ระดับใหญ่ได้ มีการพูดคุยกันถึงขอบเขตการจัดการความโกรธ 3 ประการ คือ ยอมรับอาการทางร่างกาย สร้างขอบเขต และพัฒนาขอบเขตของกลยุทธ์ ซารา ทำงานกับนักเรียนแต่ละคน เน้นเรื่องมุมมองของความโกรธทางร่างกาย วัลเลอรี และแจ็คกี ทำงานร่วมกับนักเรียนกลุ่มเล็ก ๆ ให้พวกเขายอมรับความโกรธ และดึงความรู้สึกของพวกเขาออกมา จากนั้นครูผู้ช่วย สังเกตซารา ทำงานร่วมกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งในการสร้างกฎเพื่อจัดการกับความโกรธ จากนั้นวัลเลอรี และแจ็คกี หารือเรื่องกฎต่างๆ ที่พวกเขาอยากจะให้เด็กปฏิบัติตาม สุดท้าย ซาราสอนกลยุทธ์ให้เด็กผู้ชายว่า ให้โกรธได้ โดยไม่ละเมิดกฎ กลุ่มของวัลเลอรี และแจ็คกีใช้การแสดงละคร เพื่อสถานการณ์ยากลำบากที่เป็นไปได้ และหารือถึงทางออกที่เหมาะสม รายการตอนนี้จะไปดู : การใช้ที่ปรึกษาด้านการเรียนเพื่อจัดการกับนักเรียนที่มีความโกรธ กระบวนการร่วมมือกันระหว่างนักเรียน และเจ้าหน้าที่การสอนในการสร้างขอบเขตของพฤติกรรม



                  ประโยชน์
ช่วยให้นักเรียนมีวินัยสมาธิในการเรียนมากขึ้น และรู้จักจัดการกับอารมณ์



                  การนำไปประยุกต์ใช้

เป็นวิธีการที่สามารถนำมาดัดแปลงให้ครูสามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดีค่ะ การจัดการความโกรธ 3 ประการ คือ ยอมรับอาการทางร่างกาย สร้างขอบเขต และพัฒนาขอบเขตของกลยุทธ์ จะลองนำไปปรับให้กับนักเรียน เพราะบางครั้งยังรู้สึกว่าโกรธ หรือโมโหที่เด็กเล่น เสียงดัง หรือทำอะไรไม่ถูกไม่ควร น่าจะสามารถนำมาพัฒนาตนเองได้เป็นอย่างดี และนอกจากแนวความคิดดังกล่าว ยังมีธรรมะก็น่าจะนำไปประยุกต์ใช้ควบคู่กันไปด้วย







แหล่งข้อมูล: http://thaiteachers.tv/
วันที่สืบค้น: 06/02/2556

แอ็กชั่น วีดิทัศน์ครู : ศิลปะและวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษา


                                               

                                                           

วีดีโอเรื่อง ศิลปะและวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษา

               เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ
                                    
วิดีโอ การแลกเปลี่ยนครู ในวิดีโอเราจะได้เห็นพวกเขาเปลี่ยนหน้าที่กับ เคต แคลลิแกน ครูศิลปะ ครูทั้ง 3 คนร่วมกันสอน และพูดคุยถึงวิธีที่พวกเขาใช้ในการสอนในชั้นเรียนของแต่ละคน โดยมีนักเรียนแสดงความเห็นเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนหน้าที่ของครูด้วย วิดีโอนี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดวิดีโอที่จัดทำขึ้นโดยบรรดาคุณครูเพื่อแสดงผลงานของพวกเขาในโรงเรียน แซนที สตีน ผู้ทำหน้าที่พิธีกรร่วมกับอเล็กซ์ ลอรา และเคต รวมทั้งเอเดรียน โจนส์ ที่ปรึกษาด้านการศึกษาพูดคุยกันถึงโครงการนี้ พวกเขาถกกันว่าโครงการสร้างความท้าทายให้พวกเขา ในการพัฒนาแนวทางที่สร้างสรรค์มากขึ้นในการนำเสนอบทเรียนอย่างไร และนี้จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อการสอนของพวกเขาอย่างไร


               ประโยชน์

เป็นการบูรณาการการสอนที่น่าสนใจมาก ที่ทำให้เห็นว่าจริง ๆแล้วในชีวิตประจำวันของเราเราไม่อาจแยกเนื้อหาวิชาใดออกมาจากวิชาใดได้ เราต้องอาศัยความรู้ในหลาย ๆวิชามาอธิบายหรือทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งในวีดีโอจะแสดงให้เห็นการบูรณาการของสองรายวิชาคือ ศิลปะกับวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญการจะเกิดการสอนแบบนั้นได้ครูต้องมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันด้วย มีการแนะนำ กำหนดวิธีการที่จะสอนให้เด็ก ๆเข้าใจโดยคำนึงถึงวุฒิภาวะของเด็ก เด็กได้ลงมือทำ ทำให้เกิดความรู้ท่คงทนอีกด้วย




              การนำไปประยุกต์ใช้
ครูสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน  เพื่อให้นักเรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียน 
และเป็นการดึงดูดความสนใจจากเด็กมัธยมศึกษาได้ดี เพราะการเรียนวิทยาศาสตร์เด็กๆอาจมอง
ว่าเป็นวิชาที่น่าเบื่อและเครียด แต่ถ้าครูผสมผสานวิชาศิลปะเข้าไป ก็จะทำให้น่าสนใจมากขึ้น








แหล่งข้อมูล:http://www.thaiteachers.tv/
วันที่สืบค้น: 06/02/2556






                                          

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556


ประโยชน์ของแมลง 

  1. เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์และสัตว์ 
  2. แมลงช่วยผสมเกสรดอกไม้ เพื่อช่วยในการขยายพันธุ์พืชต่อไป เช่น ผึ้ง ผีเสื้อ เป็นต้น 
  3. แมลงนักสืบ โดยจะใช้ประโยชน์ในการสืบสวนเกี่ยวกับคดีความต่างๆ โดยเฉพาะการสืบสวนคดีอาชญากรรม ซึ่งบางครั้งก็จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  “อาชญนิติเวชกีฎวิทยา” เช่น แมลงวัน แมลงสาบ แมลงหวี่ เป็นต้น 
 4. แมลงดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำ  เป็นตัวตรวจสอบคุณภาพน้ำ เช่น แมลงชีปะขาว จิ้งโจ้น้ำ แมงตับเต่า  แมงกะโซ่ แมงกะซอน เป็นต้น 
  5. แมลงที่เป็นศัตรูธรรมชาติ ช่วยทำลายแมลงอื่นๆ ที่เป็นศัตรูทำลายพืชผลต่างๆ เพื่อรักษาภาวะสมดุลในระบบนิเวศ  ได้แก่ ตัว ห้ำ ตัวเบียน 
  6. ประโยชน์ทางการศึกษา  โดยเฉพาะใช้ทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์ เช่น แมลงหวี่ แมลงสาบ




โทษของแมลง


    1. เป็นพาหะนำโรคร้ายแรงหลายโรคมาสู่มนุษย์  เช่น ยุงลายนำโรคไข้เลือดออก ยุงก้นปล่องนำโรคมาลาเรีย ยุงเสือนำโรคเท้าช้าง  และยุงรำคาญนำโรคไข้สมองอักเสบ ส่วนแมลงวันก็เป็นพาหะนำโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารมาสู่คนหลายชนิด เช่น   โรคอหิวาต์ โรคไทฟอยด์ โรคบิด เป็นต้น
    2. สร้างความรำคาญและทำให้สกปรก  เช่น แมงสาบ มด เป็นต้น
    3. แมลงบางชนิด อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากรับประทานเข้าไปในจำนวนมากพอ เช่น ด้วงน้ำมัน เป็นต้น
    4. แมลงที่เป็นอันตราย ได้แก่ แมงป่อง ผึ้ง ต่อ แตน เป็นต้น ซึ่งจะมีต่อมพิษอยู่ในบริเวณปลายท้อง




ที่มา:http://www.blogger.com/blogger.g?blogID=4460221892923724038#editor/target
วันที่สืบค้น 1/2/2556


แมลงปอ






แมลงปอ หรือ ที่รู้จักในภาษาอังกฤษว่า มังกรบินจิ๋ว (Dragonfly) ซึ่งถือว่า เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ ที่สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ให้อยู่รอดมาได้ จนถึงปัจจุบันนี้นั้น เมื่อนับอายุรวมแล้ว พบว่ามันเป็นสมาชิกกลุ่มหนึ่ง ของโลกที่เกิดขึ้นมานานถึง 300 ล้านปี แมลงปอจัดเป็นแมลงชนิดหนึ่ง ในกลุ่มไฟลั่ม อาร์โทรโปดา(Phylum Arthropoda) ซึ่งมีการขุดพบฟอสซิล ที่แสดงให้เห็นว่า มันเคยอาศัยอยู่ในยุค Carboniferous ซึ่งเป็นยุคที่เริ่ม มีการปรากฏตัวของแมลงปอ และแมลงปอเข็ม

ส่วนหัวของแมลงปอจะประกอบด้วย สองส่วนหลักคือ ดวงตาขนาดใหญ่ 2 ดวง ที่ภายในดวงตาใหญ่แต่ละข้างนั้น ก็ จะเต็มไปด้วยดวงตาขนาดเล็กๆ ซึ่งมีลักษณะเป็นรูป 6 เหลี่ยม อีกนับแสนดวง ซึ่งเป็นสิ่ง ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเพื่อ ช่วยให้มันสามารถมองเห็น และจับเหยื่อที่มีขนาดเล็กได้ อีกส่วนก็คือ เขี้ยวที่ปาก ซึ่งมีไว้เพื่อกัดกินสัตว์อื่น ด้วยเหตุนี้ แมลงปอ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น "mosquito hawk”


ส่วนอกจะประกอบด้วยขา3 คู่ (6 ขา) ที่มีไว้เพื่อให้มันสามารถจับเหยื่อได้อย่างแน่นหนา และด้านบนของส่วนอกจะเป็นปีกบางใสอีก 2 คู่ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนกล้ามเนื้อที่แข็งแร็งมาก เพราะมีประโยชน์ช่วย ทำให้มันบินได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น


ส่วนท้องจะเป็นพื้นที่สำหรับอวัยวะที่ช่วยในการหายใจและอวัยวะเพศ


โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อถึงเวลาผสมพันธุ์ แมลงปอตัวผู้จะมีช่องเปิดของน้ำเชื้อ ที่ปลายหาง แต่มันจะเอา ถุงน้ำเชื้อมาเก็บไว้ ที่อวัยะเก็บน้ำเชื้อซึ่งอยู่บริเวณหน้าอก จนเมื่อมันเจอกับตัวเมีย มันจะใช้ขาคว้าตัวเมียเอาไว้ แล้วค่อยๆ เกาะหลังตัวเมียไว้จนแน่น จากนั้นทั้งคู่ก็จะบิน เกาะกันไปกลางอากาศในท่าเดิม(tandem position) สักพักตัวเมียจะ เอาช่องเพศของตัวเองขึ้น ไปแตะที่อวัยวะเก็บน้ำเชื้อของตัวผู้ (wheel position) จากนั้น ทั้งคู่ก็อาจจะแยกกัน หรือ พากันบินไปในท่าที่ ยังเกาะกันอยู่ ก่อนที่ตัวเมียจะวางไข่ ซึ่งจะเลือกวางด้วยการดำน้ำ หรือใช้ช่วงท้องแหย่ลงในน้ำ แล้ววางไข่ให้ติดกับพืชน้ำ


เมื่อตัวเมียวางไข่แล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ - 1 เดือนไข่ก็จะฝัก เมื่อไข่ฟักเป็นตัวระยะนี้จะเรียกว่า "ตัวโม่ง" ซึ่งแตกต่างจากแมลงปอที่โตเต็มวัย พวกมันมีปีกขนาดเล็กมาก และฟันล่างขนาดใหญ่ โดยจะอาศัย อยู่ในน้ำ และจับสัตว์น้ำเล็กๆ รวมถึง ลูกปู ลูกหอย ลูกอ๊อดและลูกปลา กินเป็นอาหาร ด้วยเหตุนี้ ตัวโม่งจึงจัดว่ามันเป็นสัตว์ ที่ดุร้ายมากเพราะว่ามันกินไม่เลือกเลย
ตัวโม่งหายใจในน้ำโดย ใช้เหงือกที่อยู่ในระบบการย่อยอาหารในร่างกายของมัน ที่สามารถสกัดออกซิเจน ออกมาจากน้ำได้ โดยมันจะหายใจด้วยการดูดน้ำเข้าไปในท้อง และหลังจากนั้นน้ำจะเลื่อนไปที่เหงือก ซึ่งเป็นเครื่องหายใจเพื่อสกัดออกซิเจน เมื่อได้รับออกซิเจนเพียงพอแล้ว จะพ่นน้ำออกมาอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น มันยังเป็นระบบการขับเคลื่อน ซึ่งทำงานเหมือนไอพ่น ทำให้ตัวโม่ง สามารถเคลื่อนที่ ไปในน้ำได้อย่างรวดเร็วด้วย
ตัวโม่งจะใช้ชีวิตในน้ำเป็นระยะเวลา 1-4 ปี (ขึ้นอยู่กับพันธ์)โดยระหว่างนั้น พวกมันจะลอกคราบประมาณ 10-15 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้ง ตัวก็จะโตขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย จนกระทั่ง เมื่อลอกคราบครั้งสุดท้าย 
พวกมันก็จะคลาน ขึ้นไปบนกิ่งก้านพืชใกล้ผิวน้ำ แล้วเริ่มหายใจด้วยท่ออากาศ ซึ่งอยู่ภายในร่างกาย หลังจากนั้นคราบจะค่อยๆ ถูกลอกออก เริ่มจากส่วนหัว ท้อง ขา และปีก ตามลำดับ จากนั้นปีกจะค่อยๆ กางออกอย่างช้าๆ เลือดในร่างกาย จะถูกปั้มเข้าไปในปีก โดยใช้เวลาหลายชั่วโมง กว่าปีกจะแข็งแรง และกลายเป็นแมลงปอ ที่พร้อมจะบินและล่าเหยื่อ อย่างพวก ยุง เพลี้ย ยุง ริ้น แมลงวัน ผีเสื้อ ผึ้ง รวมทั้งแมลงปอด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ มันสามารถใช้ชีวิตเป็นแมลงปออย่างสมบูรณ์ ได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น


ที่มา:http://www.thaigoodview.com/node/114922
      www.teenee.com

วันที่สืบค้น  1/2/2556



วงจรชีวิตของแมลง







          วงจรชีวิตของแมลง  หมายถึงการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของแมลง ตั้งแต่ระยะแรกถึงระยะสุดท้าย  โดยจะแบ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง 2 แบบ คือ การเปลี่ยนแปลงรูปร่างแบบสมบูรณ์ และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างที่ไม่สมบูรณ์ จะทำให้เกิดการขยายพันธุ์ ให้แมลงยังคงอยู่ตลอดไป 

          1. การเปลี่ยนแปลงรูปร่างแบบสมบูรณ์ มีการเปลี่ยนแปลง 4 แบบ คือ  ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ทั้งสี่แบบนี้ จะมีรูปร่างไม่เหมือนกัน  ตัวอ่อนจะแตกต่างจากพ่อแม่มาก ตัวอ่อนจะกินอาหารแตกต่างจากพ่อแม่  และลอกคราบหลายครั้ง เมื่อเจริญเต็มที่ก็จะหยุดกินอาหาร และเปลี่ยนรูปเป็นดักแด้  ในระยะนี้ แมลงบางชนิดจะปั่นไยไหมห่อหุ้มตัวเอง บางชนิดจะมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะบริเวณผิวหนัง โดยที่ผิวหนังที่เคยนิ่ม กลายเป็นปลอกแข็งหุ้มตัว ในระหว่างที่มันหยุดนิ่งเฉยนี้จะมีการเปลี่ยนรูปร่างลักษณะไปเป็นแมลงที่สมบูรณ์เต็มที่ เมื่อการเจริญครบกำหนดเวลาแมลงภายในใยไหมหรือปลอกดักแด้ก็จะเจาะออกมาเป็นแมลงที่โตเต็มที่  แมลงส่วนใหญ่จะเจริญเติบโตโดยการเปลี่ยนรูปร่างแบบสมบูรณ์ เช่น ผีเสื้อกลางวัน ผีเสื้อกลางคืน แมลงช้าง แมลงวัน เป็นต้น 

          2. การเปลี่ยนแปลงรูปร่างแบบไม่สมบูรณ เมื่อไข่ฟักออกมาแล้วจะกลายเป็นตัวอ่อนที่มีรูปร่างใกล้เคียงพ่อแม่  แต่ไม่มีปีก และมักจะมีนิสัยตลอดจนที่อยู่อาศัยต่างจากพ่อแม่ด้วย  พวกแมลงโบราณ ซึ่งเป็นแมลงชนิดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปจากต้นตระกูล
ซึ่งเกิดขึ้นในโลก  เมื่อหลายร้อยล้านปี ไข่ของแมลงดังกล่าวนี้เมื่อฟักออกมาแล้ว  จะกลายเป็นตัวอ่อนที่มีรูปร่างเหมือนพ่อแม่ ผิดแต่มีขนาดเล็กกว่าเท่านั้น  ตัวอย่างของแมลงพวกนี้ได้แก่ ตัวสามง่าม


ที่มา:http://www.blogger.com/blogger.g?blogID=4460221892923724038#editor/target

วันที่สืบค้น 1/2/2556