แมลงปอ
แมลงปอ หรือ ที่รู้จักในภาษาอังกฤษว่า มังกรบินจิ๋ว (Dragonfly) ซึ่งถือว่า เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ ที่สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ให้อยู่รอดมาได้ จนถึงปัจจุบันนี้นั้น เมื่อนับอายุรวมแล้ว พบว่ามันเป็นสมาชิกกลุ่มหนึ่ง ของโลกที่เกิดขึ้นมานานถึง 300 ล้านปี แมลงปอจัดเป็นแมลงชนิดหนึ่ง ในกลุ่มไฟลั่ม อาร์โทรโปดา(Phylum Arthropoda) ซึ่งมีการขุดพบฟอสซิล ที่แสดงให้เห็นว่า มันเคยอาศัยอยู่ในยุค Carboniferous ซึ่งเป็นยุคที่เริ่ม มีการปรากฏตัวของแมลงปอ และแมลงปอเข็ม
ส่วนหัวของแมลงปอจะประกอบด้วย สองส่วนหลักคือ ดวงตาขนาดใหญ่ 2 ดวง ที่ภายในดวงตาใหญ่แต่ละข้างนั้น ก็ จะเต็มไปด้วยดวงตาขนาดเล็กๆ ซึ่งมีลักษณะเป็นรูป 6 เหลี่ยม อีกนับแสนดวง ซึ่งเป็นสิ่ง ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเพื่อ ช่วยให้มันสามารถมองเห็น และจับเหยื่อที่มีขนาดเล็กได้ อีกส่วนก็คือ เขี้ยวที่ปาก ซึ่งมีไว้เพื่อกัดกินสัตว์อื่น ด้วยเหตุนี้ แมลงปอ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น "mosquito hawk”
ส่วนอกจะประกอบด้วยขา3 คู่ (6 ขา) ที่มีไว้เพื่อให้มันสามารถจับเหยื่อได้อย่างแน่นหนา และด้านบนของส่วนอกจะเป็นปีกบางใสอีก 2 คู่ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนกล้ามเนื้อที่แข็งแร็งมาก เพราะมีประโยชน์ช่วย ทำให้มันบินได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ส่วนท้องจะเป็นพื้นที่สำหรับอวัยวะที่ช่วยในการหายใจและอวัยวะเพศ
โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อถึงเวลาผสมพันธุ์ แมลงปอตัวผู้จะมีช่องเปิดของน้ำเชื้อ ที่ปลายหาง แต่มันจะเอา ถุงน้ำเชื้อมาเก็บไว้ ที่อวัยะเก็บน้ำเชื้อซึ่งอยู่บริเวณหน้าอก จนเมื่อมันเจอกับตัวเมีย มันจะใช้ขาคว้าตัวเมียเอาไว้ แล้วค่อยๆ เกาะหลังตัวเมียไว้จนแน่น จากนั้นทั้งคู่ก็จะบิน เกาะกันไปกลางอากาศในท่าเดิม(tandem position) สักพักตัวเมียจะ เอาช่องเพศของตัวเองขึ้น ไปแตะที่อวัยวะเก็บน้ำเชื้อของตัวผู้ (wheel position) จากนั้น ทั้งคู่ก็อาจจะแยกกัน หรือ พากันบินไปในท่าที่ ยังเกาะกันอยู่ ก่อนที่ตัวเมียจะวางไข่ ซึ่งจะเลือกวางด้วยการดำน้ำ หรือใช้ช่วงท้องแหย่ลงในน้ำ แล้ววางไข่ให้ติดกับพืชน้ำ
เมื่อตัวเมียวางไข่แล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ - 1 เดือนไข่ก็จะฝัก เมื่อไข่ฟักเป็นตัวระยะนี้จะเรียกว่า "ตัวโม่ง" ซึ่งแตกต่างจากแมลงปอที่โตเต็มวัย พวกมันมีปีกขนาดเล็กมาก และฟันล่างขนาดใหญ่ โดยจะอาศัย อยู่ในน้ำ และจับสัตว์น้ำเล็กๆ รวมถึง ลูกปู ลูกหอย ลูกอ๊อดและลูกปลา กินเป็นอาหาร ด้วยเหตุนี้ ตัวโม่งจึงจัดว่ามันเป็นสัตว์ ที่ดุร้ายมากเพราะว่ามันกินไม่เลือกเลย
ตัวโม่งหายใจในน้ำโดย ใช้เหงือกที่อยู่ในระบบการย่อยอาหารในร่างกายของมัน ที่สามารถสกัดออกซิเจน ออกมาจากน้ำได้ โดยมันจะหายใจด้วยการดูดน้ำเข้าไปในท้อง และหลังจากนั้นน้ำจะเลื่อนไปที่เหงือก ซึ่งเป็นเครื่องหายใจเพื่อสกัดออกซิเจน เมื่อได้รับออกซิเจนเพียงพอแล้ว จะพ่นน้ำออกมาอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น มันยังเป็นระบบการขับเคลื่อน ซึ่งทำงานเหมือนไอพ่น ทำให้ตัวโม่ง สามารถเคลื่อนที่ ไปในน้ำได้อย่างรวดเร็วด้วย
ตัวโม่งจะใช้ชีวิตในน้ำเป็นระยะเวลา 1-4 ปี (ขึ้นอยู่กับพันธ์)โดยระหว่างนั้น พวกมันจะลอกคราบประมาณ 10-15 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้ง ตัวก็จะโตขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย จนกระทั่ง เมื่อลอกคราบครั้งสุดท้าย
พวกมันก็จะคลาน ขึ้นไปบนกิ่งก้านพืชใกล้ผิวน้ำ แล้วเริ่มหายใจด้วยท่ออากาศ ซึ่งอยู่ภายในร่างกาย หลังจากนั้นคราบจะค่อยๆ ถูกลอกออก เริ่มจากส่วนหัว ท้อง ขา และปีก ตามลำดับ จากนั้นปีกจะค่อยๆ กางออกอย่างช้าๆ เลือดในร่างกาย จะถูกปั้มเข้าไปในปีก โดยใช้เวลาหลายชั่วโมง กว่าปีกจะแข็งแรง และกลายเป็นแมลงปอ ที่พร้อมจะบินและล่าเหยื่อ อย่างพวก ยุง เพลี้ย ยุง ริ้น แมลงวัน ผีเสื้อ ผึ้ง รวมทั้งแมลงปอด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ มันสามารถใช้ชีวิตเป็นแมลงปออย่างสมบูรณ์ ได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
ที่มา:http://www.thaigoodview.com/node/114922
www.teenee.com
วันที่สืบค้น 1/2/2556